ผู้ผลิตนมผสมใช้เวลามากกว่าศตวรรษในการพยายามวิเคราะห์แยกแยะส่วนประกอบแต่ละชนิดของนมแม่
และนำสารสังเคราะห์มาประกอบเป็น “นมทดแทน”
บริษัทผู้ผลิตนมผสมอ้างว่า
นมผสมมีสารอาหารหลากหลายใกล้เคียงกับนมแม่ รวมทั้งทุ่มโฆษณาเพื่อสร้างภาพความคล้ายคลึงหรือเหนือกว่านมแม่
แต่การผลิตนมผสมที่มีคุณสมบัติเหมือนน้ำนมแม่เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ “ส่วนประกอบทั้งหมด” ของน้ำนมแม่
ในบรรดาส่วนประกอบของนมแม่ที่นักวิทยาศาสตร์สามารถวิเคราะห์ได้แล้ว
นมแม่ก็ยังมีส่วนประกอบอีกมากกว่า 100 ชนิด ที่นมผสมไม่มี
การเลือกใช้นมวัว หรือนมถั่วเหลือง
เป็นวัตถุดิบหลักของนมผสม ไม่ใช่เพราะมันมีคุณสมบัติใกล้เคียงน้ำนมแม่มากที่สุด
แต่เพราะมันเป็นวัตถุดิบที่หาง่ายและราคาถูก ทำให้ผู้ผลิตสามารถทำกำไรได้มาก
ผู้ผลิตนมผสมต้องเติมสารสังเคราะห์ต่าง ๆ ลงไปในนมวัว หรือนมถั่วเหลือง เพื่อจะโฆษณาอวดอ้างว่ามีสารอาหารครบถ้วนเหมือนนมแม่
หรือมากกว่านมแม่
แต่สารต่าง ๆ ที่เติมแต่งเข้าไปนั้นเป็น “สารสังเคราะห์ทางเคมี” ซึ่งไม่มีทางเลียนแบบสารธรรมชาติในนมแม่ได้
ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่า
สารสังเคราะห์ที่เลียนแบบสารธรรมชาติในนมแม่จะมีประโยชน์กับทารกจริงหรือไม่
บริษัทผู้ผลิตมักอ้างงานวิจัยเพื่อโฆษณาสรรพคุณของนมผสม
แต่การวิจัยส่วนใหญ่มักจะได้ทุนจากบริษัทผลิตนมผสมเอง และไม่มีการรับรองหรือตรวจสอบจากองค์กรวิจัยอิสระที่เชื่อถือได้จริง
สาเหตุที่งานวิจัยของบริษัทนมผสมไม่มีการรับรองจากองค์กรวิจัยอิสระ
ก็เพราะบริษัทนมผสมไม่สามารถนำผลิตภัณฑ์เหล่านั้นไปทดลองกับทารกจริง ๆ ได้จำนวนมากพอ
และเมื่อใดที่ผลทดลองแสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นไม่ปลอดภัย
ผลทดลองเหล่านั้นก็มักจะถูกตัดออกจากผลงานวิจัยที่นำมารายงานให้สาธารณชนทราบ
เมื่อเกิดปัญหาจากการบริโภคนมผสมที่จำหน่ายในท้องตลาด
บริษัทนมผสมจะแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนส่วนผสม
และนำออกมาวางขายในรูปของนมผสมสูตรใหม่ในราคาที่แพงขึ้น แต่ผู้บริโภคจะไม่มีโอกาสรู้เลยว่า
ส่วนผสมใหม่จะก่อให้เกิดปัญหาอีกหรือไม่
เมื่อใดที่มีนมผสมสูตรใหม่ออกวางจำหน่าย
ก็เท่ากับว่าบริษัทนมผสมกำลังทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ของตนเอง
โดยใช้ผู้บริโภคทั่วไปเป็นหนูทดลองนั่นเอง
“การเปลี่ยนแปลงสูตรนมผสมยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และนับเป็นการทดลองที่ใหญ่ที่สุด ที่ทำโดยตรงกับมนุษย์โดยปราศจากการควบคุม”
2
Kathleen
Auerbach
No comments:
Post a Comment