DHA เป็นกรดไขมันที่พบมากในสมองและเยื่อกระจกตา ทารกสามารถสร้าง DHA ได้เอง แต่อาจจะมีปริมาณไม่มากพอ น้ำนมแม่จึงมี DHA ธรรมชาติ
อยู่ในปริมาณมาก
ARA เป็นกรดไขมันที่เชื่อว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบประสาทส่วนกลาง
นมวัวหรือนมถั่วเหลืองไม่มี
DHA ตามธรรมชาติ บริษัทผู้ผลิตจึงต้องเติม DHA
สังเคราะห์ ลงในนมผสม
นักวิจัยพบว่าการเติม
DHA สังเคราะห์ ในนมผสม ทำให้ระดับ ARA ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ในกล้ามเนื้อของทารกลดต่ำลงกว่าปกติ3
บริษัทนมผสมจึงแก้ไขความผิดพลาดนี้โดยการเติม
ARA สังเคราะห์ ในนมผสมที่เติม DHA สังเคราะห์ ด้วย
DHA และ ARA สังเคราะห์ที่ใช้เติมในนมผสม
ผลิตจากการหมักสาหร่ายในสารอาหารเหลว แล้วนำสาหร่ายแห้งไปบ่มกับสารละลายเฮ็กเซน* เพื่อสกัดน้ำมัน DHA
และ ARA สังเคราะห์ ออกมา
DHA และ ARA สังเคราะห์ มีโครงสร้างโมเลกุลต่างจาก DHA
และ ARA ตามธรรมชาติในนมแม่
ทารกบางคนที่ไม่สามารถย่อย DHA และ ARA สังเคราะห์ได้ จะเกิดอาการระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร
สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ
(FDA) ได้รับรายงาน 98 ฉบับ4
เกี่ยวกับทารกที่มีปฏิกริยาตอบสนองต่อ DHA และ
ARA สังเคราะห์ โดยมีอาการตั้งแต่การอาเจียนหรือท้องร่วงท้องเสีย
(ซึ่งอาการจะหายไปเมื่อหยุดให้นมผสมสูตรเติม DHA และ ARA
สังเคราะห์) จนถึงกรณีที่ต้องเข้าห้องไอซียูเพราะชักหรือขาดน้ำรุนแรง
ผู้เชี่ยวชาญของสถาบันยา
(Institute of Medicine ) ของสหรัฐอเมริกาเชื่อว่ามีทารกจำนวนมากเจ็บป่วยเนื่องจากกินนมผสมสูตร
DHA และ ARA สังเคราะห์ แต่ไม่ได้ส่งรายงานให้
FDA เนื่องจากแพทย์, พยาบาล, และพ่อแม่ไม่ได้เชื่อมโยงอาการเจ็บป่วยของทารกกับการกินนมผสมสูตร DHA และ ARA
DHA 5-6 เท่า ดีจริงหรือ
DHA และ ARA ธรรมชาติในนมแม่จะมีการปรับปริมาณอัตโนมัติ
ในแต่ละช่วงเวลาอย่างเหมาะสม
เพื่อให้เข้าไปปรับสมดุลระบบภายในร่างกายของทารกได้อย่างทันท่วงที
และทำให้เซลล์สมอง และระบบการทำงานต่าง ๆ ของทารกพัฒนาได้อย่างสมบูรณ์เต็มที่
จากงานวิจัยในปัจจุบัน
ยังไม่ทราบว่าปริมาณ DHA และ ARA สังเคราะห์ในนมผสมควรจะเป็นเท่าใด
และต้องมีสัดส่วนอย่างไร
ถ้า DHA และ ARA สังเคราะห์ที่เติมแต่งเข้าไป
มากเกินกว่าปริมาณที่ทารกสามารถดูดซึมได้ ส่วนที่เกินจะต้องถูกกำจัดออกทางไต
แต่ไตของทารกยังพัฒนาไม่เต็มที่จนกว่าจะอายุ 2 ปี
จึงไม่สามารถกำจัดสารสังเคราะห์ส่วนเกินได้ สารเหล่านี้อาจกลายเป็นสารตกค้างและเป็นพิษต่อร่างกาย
ผู้ผลิตนมผสมอวดอ้างว่า
DHA และ ARA สังเคราะห์ ที่เติมในนมผสมมีส่วนช่วยพัฒนาสมองและสายตา
แต่ผลการวิจัยที่น่าเชื่อถือได้พบว่า
ทารกกินนมผสมที่เติม DHA และ ARA สังเคราะห์ ไม่ได้มีพัฒนาการดีกว่าทารกที่กินนมผสมสูตรธรรมดาเลย5
งานวิจัยบางส่วนที่สรุปว่านมผสมที่เติม
DHA และ ARA สังเคราะห์ ทำให้เด็กฉลาดกว่า
ล้วนแต่เป็นงานวิจัยที่สนับสนุนโดยผู้ผลิตนมผสมเอง นอกจากนี้ผู้ผลิตก็ไม่มีหลักฐานที่ยืนยันความปลอดภัยสำหรับทารกในการบริโภค
DHA และ ARA สังเคราะห์
แต่บริษัทนมผสมก็ยังนำ DHA และ ARA สังเคราะห์
มาใช้ในนมผสม เพียงเพื่อให้ขายนมผสมได้มากขึ้นและตั้งราคาขายได้สูงขึ้น
เมื่อต้นเดือนธันวาคม
ค.ศ. 2009 ศาลกลางสหรัฐมีคำตัดสินว่าบริษัทผู้ผลิตนมผสมยักษ์ใหญ่รายหนึ่งของโลก
มีความผิดฐานโฆษณาด้วยการให้ข้อมูลบิดเบือนจากความเป็นจริง 6
คำโฆษณาของผู้ผลิตนมผสมรายนี้อ้างว่า
นมผสมยี่ห้อของตนได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์ว่าช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตของสมองและสายตา
การใช้นมผสมอื่น ๆ อาจทำให้ทารกมีพัฒนาการที่ด้อยกว่า
ซึ่งเป็นคำกล่าวอ้างที่ไม่เป็นความจริง
และไม่สามารถหาหลักฐานมาพิสูจน์ได้
มาร์เท็ค ไบโอไซแอนซ์ คอร์ปอเรชั่น (Martek
Biosciences Corporation) ผู้ผลิตและจำหน่าย DHA และ ARA สังเคราะห์
ให้กับบริษัทผลิตนมผสมเกือบทุกบริษัท ยอมรับว่า จุดประสงค์ของสารเติมแต่งเหล่านี้
ไม่ใช่เพื่อส่งเสริมพัฒนาการที่มีสุขภาพของทารก
แต่เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการทำการตลาดและโฆษณา
ในเอกสารที่บริษัททำขึ้นเพื่อกระตุ้นการลงทุนจากนักลงทุน
มาร์เท็คระบุอย่างชัดเจนว่า
“ในปัจจุบันนมผสมสำหรับทารกกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์
ซึ่งสินค้าทุกยี่ห้อแทบจะเหมือนกันทุกประการ
ทุกบริษัทจึงต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือดในการสร้างความแตกต่างให้กับยี่ห้อของตน ถึงแม้ DHA
และ ARA สังเคราะห์ จะไม่มีประโยชน์ แต่เราเชื่อว่ามันก็ยังจะถูกนำไปเติมในนมผสมอย่างแพร่หลาย
เพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดและทำให้บริษัทเหล่านั้นสามารถโฆษณาได้
ว่านมผสมของบริษัทตัวเอง “ใกล้เคียงกับนมแม่มากที่สุด”
7
*
สารละลายเฮ็กเซนเป็นสาระละลายที่ใช้วงการอุตสาหกรรมทั่วไป มีคุณสมบัติเป็นพิษต่อกล้ามเนื้อสมอง
จึงต้องถูกกำจัดออกจากน้ำมัน DHA สังเคราะห์
ด้วยขบวนการกลั่น, การกรอง, และการแยกชั้น
No comments:
Post a Comment